แถลงข่าวจับผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองที่เชียงราย

แถลงข่าวจับผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองที่เชียงราย                                       

ตำรวจแนะเจ้าของร้านทองให้ติดตั้งลูกกรง ป้องกันไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย หลังพบการก่อเหตุที่จังหวัดเชียงรายคนร้ายเลือกลงมือร้านที่ไม่มีลูกกรง ผู้ต้องหาสารภาพนำทองไปขายฝั่งเมียนมาบาทละ 18,000 บาท เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ส่วนผู้ร่วมกระทำผิดเป็นชาวเมียนมา
วันที่ 2 ก.ค. 64  ที่ สภ เมืองเชียงราย พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รองผู้บัญชาการภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย แถลงข่าวชุดปฏิบัติการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูะรภาค 5 จับกุมนายจับกุม นายพิเชษฐ์ ซาวคำเขต อายุ 24 ปี อยู่บ้านสันสลีหลวง ตำบลศรีค้ำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย คนขับรถจักรยานยนต์ที่ใช่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองทวีสิน สาขาย่อยตลาดป่าก่อเงี้ยว ในเขตเทศบาลนครเชียงรายเมื่อวันที่ 26มิถุนายที่ผ่านมา โดยเมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 30มิถุนายน เจ้าหน้าที่จับกุมนายพิเชษฐ์ได้ ขณะขับรถยนต์อยู่บนถนนเชียงราย-เทิง เขตตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย จากนั้นขยายผลไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่น M-SLAZ สีดำ คันที่ใช้ก่อเหตุมาประกอบการดำเนินคดี

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                  พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รองผู้บัญชาการภาค 5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนสาเหตุที่คนร้ายเลือกลงมือเนื่องจากทางร้านมีจุดอ่อนคือไม่มีลูกกรงเป็นเครื่องป้องกันนการเข้าถึงทองรูปพรรณของทางร้าน ทองที่คนร้ายได้ไปได้นำไปขายที่ท่าขี้เหล็กในราคาบาทละ 18,000 บาท เหตุจูงใจเชื่อว่าน่าจะต้องการเงินไปชำระหนี้สินซึ่งจะได้สอบสวนต่อไป ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเชื่อว่าจะเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุร้านทองหน้าตลาดบ้านดู่ ส่วนการติดตามคนร้ายที่ร่วมกับนายพิเชษฐ์กระทำผิดนั้น เบ้องต้นทราบชื่อแล้วเป็นคนคนฝั่งท่าขี้เหล็ก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานกับทางการเมียนมาเพื่อติดามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

รองผู้บัญชาการภาค 5 ยังได้ฝากไปถึงสถานประกอบการร้านทองด้วยว่า ปัจจุบันร้านทองส่วนใหญ่มีการติดตั้งลูกกรงป้องกันไม่เข้าถึงทองได้ง่ายๆ ร้านไหนที่ไม่มีลูกกรงก็จะเป็นเป้าหมายของคนร้ายที่จะเลือกลงมือก่อเหตุ อยากให้ทุกร้านได้ลงทุนติดตั้งให้ครบ เพื่อเป็นการป้องกัน นอกจากนี้หากเกิดเหตุการณ์ที่น่าสงสัยว่าอยากให้แจ้งตำรวจโดยเร็ว ซึ่งสายตรวจจะได้เข้าไปตรวจตราเพื่อป้องปรามและป้องกันไม่เกิดเหตุการณ์คนร้ายชิงทรัพย์ร้านทองได้
ข่าว จ่าเซฟ / บก.พิทักษ์ไทย