2 เหยื่อถูกหลอกเปิดบัญชีธนาคาร ไม่กี่เดือน โดนสรรพกรเรียกเก็บภาษี 800 ล้านบาท โล่เข้าร้องขอความช่วยเหลือ สมาคมพิทักษ์ประชาราษฎร์ ขอความเป็นธรรม

2 เหยื่อถูกหลอกเปิดบัญชีธนาคาร ไม่กี่เดือน โดนสรรพกรเรียกเก็บภาษี 800 ล้านบาท
โล่เข้าร้องขอความช่วยเหลือ สมาคมพิทักษ์ประชาราษฎร์ ขอความเป็นธรรม

กรณี นายกุลวิวัฒน์ อายุ 42 ปี และน.ส.สุรนุช อายุ 29 ปี   2 เหยื่อถูกหลอกเปิดบัญชีธนาคาร และจัดตั้งบริษัทฯ ไม่กี่เดือนมีเงินหมุนเวียนในบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องกว่าหลายพันล้านบาท กว่าจะรู้ตัวจากการที่โดนสรรพกรเรียกเก็บภาษีของนายกุลวิวัฒน์ กว่า 100 ล้านบาท และน.ส.สุรนุช กว่า 800 ล้านบาทในเวลาไม่กี่เดือน ผู้เสียหายกล่าวว่า มีนาง ซี ซึ่งชักชวนให้ไปเปิดบัญชีธนาคารและเปิดบริษัทฯ แต่ไม่ได้ไม่รับผิดชอบใดๆ จึงตัดสินใจเข้ามาร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายพิทักษ์ ศิริวงศ์ นายกสมาคมพิทักษ์ประชาราษฎร์ พร้อมนำหลักฐานต่างๆ มาแสดงต่อหน้าสื่อมวลชนหลายสำนักข่าว
จากเหตุการณ์ข้างต้น เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2565 ที่ จ.ระยอง ผู้เสียหายทั้งสองคนเข้าพบนายกสมาคมพิทักษ์ประชาราษฎร์ นายพิทักษ์ ศิริวงศ์ พร้อมด้วยสื่อมวลชนหลายสำนักข่าว และ ได้มีการเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่ถูก นายชัช กับ นาง สุ หลอกชักชวนให้ไปเปิดบัญชี และจัดตั้งบริษัทฯให้เป็นกรรมการบริษัทฯผู้มีอำนาจ โดยอ้างว่าจะช่วยทำบัญชีเงินหมุนเวียนรายเดินบัญชีในธนาคาร(Statement) ให้กับผู้เสียหาย ทั้งนี้เพราะทราบว่าผู้เสียหายทั้งสองคนมีความสนใจและต้องการใช้ประกอบการยื่นซื้อบ้านแต่ทั้งสองคนไม่มีเงินหมุนเวียนในบัญชี ผู้เสียหายจึงได้ไปเปิดบัญชีในนามตนเองและมอบเอกสารหลักฐานให้กับนายชัช กับ นาง สุ หลังจากนั้นไม่ทราบความเคลื่อนไหวใดๆ ผ่านไปไม่กี่เดือน มีหนังสือจากสรรพกรแจ้งมาให้ไปเสียภาษี เห็นแล้วตกใจอย่างมาก เพราะต้องเสียภาษีเป็นจำนวนหลายร้อยล้านบาท ดังกล่าวข้างต้น ผู้เสียหายจึงรู้ว่าน่าจะถูกหลอกแล้ว และเกิดความเสียหายสร้างความเดือดร้อนกับเหยื่อทั้งสองคนอย่างมหาศาลทีเดียวและ เหยื่อแจ้งว่าติดต่อนางซีผู้ที่มาหลอกไม่ได้และไม่รับผิดชอบใดๆในขณะนี้ ซึ่งยังหาทางออกไม่ได้และจะเข้าข่ายผิดกฎหมายไม่จ่ายภาษีกับสรรพกรอีกด้วย ผู้เสียหายทั้งสองคน จึงตัดสินใจเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม จาก สมาคมพิทักษ์ประชาราษฎร์ และสื่อมวลชน ให้ตรวจสอบและช่วยเหลือให้ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว (มีคลิปการชี้แจงของผู้เสียหายต่อนายกสมาคมฯและสื่อมวลชน )

ด้านนายพิทักษ์ ศิริวงศ์ นายกสมาคมพิทักษ์ประชาราษฎร์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและเอกสารการร้องเรียนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ มีมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท และมีผลกระทบความเสียหายต่อประชาชนอย่างมหาศาล ซึ่งจากพฤติการไม่น่าจะมีผู้เสียหายเพียงเท่านี้อาจจะมีเพิ่มอีกและอาจเป็นไปได้ที่จะมีการทำเป็นขบวนการ ซึ่งทางสมาคมฯ จะได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบและช่วยเหลือด้านกฎหมายในเบื้องต้นสำหรับเหยื่อทั้งสองคน ต่อไป เพื่อไขเงื่อนงำต้นสายปลายเหตุ ที่มาของเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ให้เกิดต่อประชาชนและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตามเจตนารมย์ของสมาคมฯต่อไป

ชมวีดี