04/06/2025

ข่าวเด็ด77

รวมข่าวดีรวมข่าวเด็ด จาก77 จังหวัดทั่วไทย

‘แสวงหาพันธมิตร บูรณาการท้องถิ่น’สู่เป้าหมายแก้จน # คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา

‘แสวงหาพันธมิตร บูรณาการท้องถิ่น’สู่เป้าหมายแก้จน # คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา

ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากเดินทางลงพื้นที่ศึกษาดูงานและเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็กและการส่งเสริมนวัตกรรมฝายชะลอน้ำชั่วคราวแกนดินซีเมนต์เพื่อท้องถิ่นพึ่งพาตนเองกับหน่วยงานต่างๆ ณ ริมแม่น้ำพุง อำเภอป่าแดด อำเภอพาน และปิดท้ายของวันที่ 28 เมษายน 2565 ด้วยการศึกษารูปแบบ “การพลิกฟื้นผืนป่าด้วยศาสตร์พระราชา”
โดยพระอาจารย์วิบูลย์ ธัมมเตโช ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ บ้านห้วยกีด ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง เชียงราย

วันที่ 29 เมษายน 2565 นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ กรรมาธิการ นำคณะ เข้าร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเชิงพื้นที่เพื่อการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ แนวทางการบริหารจัดการน้ำแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อท้องถิ่นพึ่งพาตนเอง ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยได้รับการต้อนรับจากนายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตัวแทนส่วนราชการได้กล่าวสรุปเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของจังหวัดเชียงราย

นายสังศิต ประธานคณะกรรมาธิการฯกล่าวว่า ที่มาของคณะกรรมาธิการนี้เกิดจากแนวคิดที่ว่า ปัญหาสำคัญของประเทศไทยคือปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในด้านต่างๆ และจะแก้ปัญหาให้ประสบความสำเร็จโดยใครหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่ได้
‘ต้องอาศัยความร่วมมือ การบูรณาการการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน จึงได้มีคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีระบบรัฐสภา’

การแก้ปัญหาความยากจนในประเทศไทยต้องค้นหาวิธีการภายใต้บริบทของสังคมไทย คณะกรรมาธิการฯ ส่งเสริมแนวทางดังนี้

1) การแก้ปัญหาความยากจนของประเทศไทยไม่สามารถลอกเลียนแบบการแก้ปัญหาความยากจนของต่างประเทศได้ เพราะมีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน และการแก้ปัญหาความยากจนต้องบริหารจัดการเรื่อง “น้ำ” เป็นประเด็นสำคัญ เช่นที่ “ทุ่งชมพูโมเดล” จังหวัดขอนแก่น ที่เราเข้าไปให้ความรู้ในเรื่องการเจาะบาดาลน้ำตื้นและใช้โซล่าร์เซลล์สูบน้ำมาเก็บไว้ในบ่อ ทำให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี นอกจากนั้นเกษตรกรยังทำการเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน ปลูกพืชผักต่างๆ ให้ตรงกับฤดูกาลที่พืชผักชนิดนั้นๆ จะขายได้ราคาดี จึงทำให้มีรายได้ทุกวัน เมื่อมีน้ำแล้ว ก็ควรแบ่งพื้นที่มาทำการเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน แล้วเปรียบเทียบรายรับรายจ่ายเองว่ารูปแบบใดได้ผลคุ้มค่ามากกว่ากัน นอกจากส่งเสริมเรื่องการผลิตแล้ว ประเด็นสำคัญคือการหาช่องทางทางการตลาด การจะปลูกอะไรขายต้องคำนึงถึงช่องทางทางการตลาดก่อนเสมอ คณะกรรมาธิการก็มีคณะอนุกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจที่มีผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ ความสามารถทางด้านการตลาดอยู่ในคณะอนุกรรมาธิการดังกล่าวเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบต่อไป

2) การทำฝายแกนดินซีเมนต์เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ตลอดทั้งปี ประเทศไทยมีฝนตกปีละประมาณ 770,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่กักเก็บไว้ได้เพียงร้อยละ 5-6 เพราะขาดการกักเก็บน้ำและการดึงน้ำมาใช้ประโยชน์ ฝายแกนดินซีเมนต์เป็นฝายที่สร้างได้เร็ว ราคาถูก และกักเก็บน้ำได้ดี ทำให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ใช้ปูนซิเมนต์ผสมดินในอัตราส่วนประมาณ 1:10-30 มีการฝังแกนดินซีเมนต์ลงไปสองเท่าของความสูงสันฝายและมีปีกฝังลงไปในตลิ่งสองฝั่ง ทำให้น้ำลงใต้ดินและซึมเข้าริมตลิ่งทั้งสองข้าง ทำให้เกิดความชุ่มชื้นเป็นบริเวณกว้าง ภายในปีสองปีจะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ดินดำ น้ำชุ่ม” นายสังศิต กล่าวในที่สุด

จากนั้นที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการพูดคุยทำความเข้าใจระหว่างส่วนราชการต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้

1) กรณีพระอาจารย์วิบูลย์ ธัมมเตโช ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ บ้านห้วยกีด ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งท่านเป็นผู้ริเริ่มโครงการ “การพลิกฟื้นผืนป่าด้วยศาสตร์พระราชา” ต้องการสร้างฝายแกนดินซีเมนต์แต่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาวฝั่งซ้าย และถูกประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ กรณีดังกล่าวได้รับการชี้แจงเกี่ยวกับกฎระเบียบต่างๆ ขั้นตอนปฏิบัติจากนายชาคริต อุตรพงศ์ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ซึ่งท้ายที่สุดได้มีการทำความเข้าใจได้ข้อสรุปที่สามารถดำเนินการจัดทำฝายแกนดินซีเมนต์ได้

2) กรณีเทศบาลตำบลสันมะค่าต้องการสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ในลำน้ำพุง กรณีดังกล่าว ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย ได้ชี้แจงแนวทางการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าในการสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ในลำน้ำพุง ได้ข้อยุติว่าให้ทีมวิศวกรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งสองหน่วยงานเข้าพบเพื่อที่จะได้สามารถทำเรื่องขออนุญาตได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วต่อไป

3) กรณีการเขียนโครงการของบประมาณในการทำแหล่งน้ำขนาดเล็ก รวมทั้งช่องทางการหาแหล่งงบประมาณ ซึ่งคณะได้ให้คำแนะนำในเบื้องต้น เช่น การของบประมาณทำแหล่งน้ำขนาดเล็กต้องดำเนินการภายใต้ Thai water plan โดยในเบื้องต้นต้องมีความพร้อมดังนี้ 1) แบบแปลนโครงการ 2) การประเมินราคา 3) การอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ นอกจากนั้นประธานคณะกรรมาธิการยังได้มอบหมายให้นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ อนุกรรมาธิการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและที่ดิน และนายสุภัทรดิศ ราชธา ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ นัดหมายการเข้ามาร่วมประชุมกับทางผู้แทนหน่วยราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อชี้แจงและให้ความรู้เกี่ยวกับรายละเอียดในการดำเนินการดังกล่าวอีกครั้ง

ส่วนมีผู้เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาที่หน่วยงานต่างๆ ต่างถือกฎหมายของตนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการต่างๆ นั้น ประธานคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า ‘การแก้ไขกฎหมายต้องใช้ระยะเวลายาวนาน แต่การแก้ไขปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชนนั้นรอไม่ได้ คณะกรรมาธิการจึงใช้หลักการในการพูดคุยทำความเข้าใจกับส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแสวงหาความร่วมมือและหาทางออก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการแสวงหาความร่วมมือโดยไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย ก็สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ประสบความสำเร็จ’

บ่ายวันเดียวกัน คณะได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายเพื่อร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เสนอแนะเพื่อบูรณาการบทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ และการบริหารจัดการน้ำ แหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อพึ่งพาตนเอง โดยมี นายกฤศ โพธสุธน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้รายงานสรุปเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานการดำเนินงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ เสนอข้อคิดเห็นต่อที่ประชุมว่า การแก้ปัญหาความยากจน ไม่อาจจลอกตำราทฤษฎีต่างๆ ของต่างประเทศ ไม่สามารถนำมาแก้ไขปัญหาของประเทศไทยได้อย่างตรงจุด เพราะรากฐานทางวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ นิสัยใจคอ สภาพแวดล้อมต่างๆ มีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น การจะแก้ปัญหาของประเทศไทยเราจึงต้องศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภายใต้บริบทของสังคมไทย เมื่อได้แนวทางการดำเนินการและได้พิสูจน์แล้วว่าแนวทางดังกล่าวได้ผล ในขั้นตอนของการเผยแพร่ความรู้ตามแนวทางใหม่ออกไปนั้น ก็ต้องเลือกที่จะเผยแพร่และต่อยอดการดำเนินงานกับผู้ที่มีความสนใจในแนวทางนั้นอย่างแท้จริง ซึ่งแนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางที่คณะกรรมาธิการได้นำมาใช้ในการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ ทั้งการออกแสวงหาความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งในเบื้องต้นคณะกรรมาธิการมีแนวทางดำเนินการดังนี้

1) การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำด้วยการบริหารจัดการเรื่อง “น้ำ” โดยเฉพาะการส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็ก
2) การแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน ที่ทำกิน ที่อยู่อาศัยที่ทับซ้อนกับพื้นที่ของรัฐ
3) การส่งเสริมด้านการศึกษาที่จะช่วยแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำได้ เช่น แนวทางของโรงเรียนมีชัยพัฒนา

‘คณะกรรมาธิการได้แสวงหาพันธมิตรในการทำงานร่วมกัน คณะกรรมาธิการได้แสวงหาความร่วมมือกับ ธ.ก.ส.ในการให้สินเชื่อแก่เกษตรกรทั้งที่เป็นลูกหนี้รายใหม่และลูกหนี้ NPL ของธนาคาร อันจะทำให้เกษตรกรมีเงินทุนในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถชำระหนี้ที่มีอยู่กับ ธ.ก.ส. ได้’ นายสังศิตกล่าวในที่สุด

จากการแลกเปลี่ยนกับทีมงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับธนาคารน้ำใต้ดิน เห็นว่าธนาคารน้ำใต้ดินและฝายแกนดินซีเมนต์ต่างก็เป็นศาสตร์ที่มีประโยชน์ต่อการกักเก็บน้ำไว้ใช้ทั้งในการอุปโภค บริโภคและการเกษตรเช่นเดียวกัน

จากนั้น ปลัดเทศบาลตำบลสันมะค่า กล่าวต่อที่ประชุมว่า ทางเทศบาลตำบลสันมะค่ามีความสนใจที่จะสร้างฝายแกนดินซีเมนต์หลายจุด ซึ่งพอพึ่งตัวเองได้ในส่วนที่ทางเทศบาลมีงบประมาณ คน และเครื่องมือของทางเทศบาล ทางเทศบาลจะดำเนินการไปก่อนบางส่วน แต่อาจมีจุดที่จำเป็นต้องขอการสนับสนุนงบประมาณและเครื่องมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทางเทศบาลตำบลสันมะค่าจะดำเนินการขอการสนับสนุนมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดต่อไป ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดยินดีที่จะให้การสนับสนุนตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

สำหรับท่านที่สนใจจะได้ข้อมูลเรื่องการบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็กก็ดี หรือหากท่านทราบว่ามีบุคคลและองค์กรใดที่สนใจจะทำเรื่องน้ำเพื่อแก้จน ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใดในประเทศนี้ก็ดี โปรดติดต่อที่

นายภัทรพล ณ หนองคาย
โทร. 087-8577999 หรือที่

นายสุภัทรดิศ ราชธา
โทร. 081-2600794