สมุทรปราการ  สุวรรณภูมิใช้เทคโนโลยีตามจับคนร้ายลักทรัพย์ในสนามบินแค่เพียง  1 ชั่วโมง(มีคลิปวีดีโอ)

สมุทรปราการ  สุวรรณภูมิใช้เทคโนโลยีตามจับคนร้ายลักทรัพย์ในสนามบินแค่เพียง  1 ชั่วโมง (มีคลิปวีดีโอ) 

*****เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 15 มี.ค.2565 พ.ต.ท.นินิศ เสนาพรหม สว.(สอบสวน) สภ.สุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ โทรีศัพท์มือถือ ในอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ตุลชัย สมใจ รองสว.สส.พ.ต.ท.นินิศ เสนาพรหม สว.(สอบสวน) สภ.สุวรรณภูมิร.ต.อ.พงษ์เกษม จตุรงค์ศักดิ์ รองสว.สส.พ.ต.ท.นินิศ เสนาพรหม สว.(สอบสวน) สภ.สุวรรณภูมิ พร้อมด้วย ฝ่ายรักษษความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันจับกุม นายสุวิทย์ เฉลิมวัย อายุ 41 ปี เลขที่ 14 ซ.สวนแก้ว ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ SAMSUNG รุ่น J 7 PRIME สีบรอนทอง เคสสีดำ  สายชาร์จโทรศัพท์มือถือสีขาว ในข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน สามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ศูนย์ขนส่งสาธารณะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

*****สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 12.00น.วันที่ 15 มี.ค.2565 นายอาณัติ พงโพด อายุ 36 ปี เลขที่ 86 หมู่ที่ 7 ต.โนนทอง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พนักงานเข็นรถสัมภาระ ผู้เสียหาย ได้ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ SAMSUNG รุ่น J 7 PRIME สีบรอนทอง เคสสีดำ  ไว้ที่บริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะ อาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเดินออกไปทะธุระ ต่อมา เวลาประมาร 11.40 น.นายอาณัติ พงโพดได้มาตรวจสอบมือถือที่ตนได้ชาร์จไว้ พบว่าได้สูญหายไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด

*****ด้านนาย กิตติพงศ์   กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับรายงานเรื่องนี้จึงสั่งการให้ฝ่ายปฎิบัติการพิเศษและฝ่ายรักษาความปลอดภัยพร้อมชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบของทอท.บูรณาการฝ่ายสืบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เร่งไล่ล่าติดตามตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดติดตามตัวและเส้นทางของคนร้าย จนกระทั่งพบว่าคนร้ายรายนี้ เป็นชายสวมเสื้อคอกลม สีดำ กางเกงขายาว สีดำ  สวมรองเท้าแตะ เป็นผู้ลักโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวไป จากนั้นผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป ฝ่ายเทคนิคของสนามบินจึงใช้กล้องพิเศษตรวจหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย คนร้ายรายนี้จนกระทั่งพบตัวว่านั่งที่เก้าอี้รอผู้โดยสาร ศูนย์ขนส่งสาธารณะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงวิทยุสั่งการให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยเข้าควบคุมตัวและขอตรวจค้นที่ตัว จาการตรวจสอบทราบชื่อ ผู้ก่อเหตุ นายสุวิทย์ เฉลิมวัย อายุ 41 ปี เลขที่ 14 ซ.สวนแก้ว ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตรวจค้น ภายในตัวพบ พบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ SAMSUNG รุ่น J 7 PRIME สีบรอนทอง เคสสีดำ  สายชาร์จโทรศัพท์มือถือสีขาว ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวา นำตัวมาสอบสวน ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

*****จาการสอบสวน นายสุวิทย์ เฉลิมวัย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาโดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

*****ด้าน นายกิตติพงศ์ กิตติขจร เปิดเผย ว่า ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิ มีการเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยและดูแลทรัพย์สินให้กับผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิดซึ่งจะมีผู้โดยสารใช้บริการภายในสนามบินค่อนข้างน้อย จึงเป็นโอกาสให้มิจฉาชีพและคนร้ายเลือกเข้ามาก่อเหตุเพราไม่มีคนพุกพล่าน อีกทั้งปัจจุบันมีการนำเอาเทคโนดลยีสมัยใหม่อย่างเช่นกล้องวงจรปิดที่สามารถคอนโทนติดตามตัวผู้ต้องสงสัยในจุดสำคัญตามเส้นทางต่างๆเพื่อง่ายต่อการไล่ล่าตัวคนร้ายเมื่อเกิดเหตุ เคสนี้ก็เช่นกันจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่เราสามารถใช้เวลาในการติดตามจับกุมคนร้ายได้ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเศษเท่านั้น จึงฝากประชาสัมพันธ์ผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หากประสบเหตุการณ์ใดๆขอให้ท่านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใกล้ตัวท่าน เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจุบันเรามีชุดเฉพาะกิจพิเศษที่จะเฝ้าคอนโทนกล้องวงจรปิดและตะเวนตรวจตราภายในอาคารผู้โดยสารและพื้นที่รับผิดชอบภายในสนามบินสุวรรณภูมิ