31/05/2025

ข่าวเด็ด77

รวมข่าวดีรวมข่าวเด็ด จาก77 จังหวัดทั่วไทย

อ.วิรัช จำปานิล ( จิตอาสาพระราชทาน) นำ “จุลินทรีย์จิตอาสาน้ำข้าว” ส่งเสริมการจัดการขยะเศษอาหารครัวเรือนเป็นศูนย์ ณ อบต. ลาดตะเคียน ปราจีนบุรี

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 จ.ปราจีนบุรี นายสิริเชษฐ์ ทองคำ นายก อบต.ลาดตะเคียน ฯ ร่วมกับ โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม นิคมๆไฮเทค อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ประกอบด้วย บริษัท พราวฟ้า พาวเวอร์ จำกัด บริษัท มี พรีม เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และ บริษัท กรีน แคร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้และตั้งศูนย์ชุมชนจัดการขยะเศษอาหารครัวเรือน มีผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต ประชาชน เข้าร่วม กว่า 150 คน และมีการกำหนดยุทธศาสตร์ “เมืองจุลินทรีย์ ” นำการขับเคลื่อนโดย ท่านกำนันอัครเดช กัณหารี โดยใช้ฐานความรู้ด้านนวัตกรรมด้วยจุลินทรีย์ฯ จะร่วมกับ 13 ชุมชน ต.ลาดตะเคียน รณรงค์และร่วมกันแก้ปัญหาขยะเศษอาหารครัวเรือน เป็นปัญหาในการจัดเก็บและปะปนกับขยะรีไซเคิล ก่อมลภาวะชุมชน ส่งกลิ่นเหม็นเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน รวมทั้งนำความรู้มาพัฒนาสินค้าชุมชนจากทรัพยากรท้องถิ่น
สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก อาจารย์วิรัช จำปานิล ( จิตอาสาพระราชทาน) ผู้พัฒนาจุลินทรีย์จิตอาสาน้ำข้าว ฯ และ ดร .กฤษณ์ พงษ์เทพิน ศูนย์เรียนรู้เมืองจุลินทรีย์ ฯ ร่วมส่งเสริมความรู้แก่ชุมชนด้วย ”จุลินทรีย์จิตอาสาน้ำข้าว “ ซึ่งเป็นนวัตกรรมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูง ในการย่อยสลายเศษอาหารกลายเป็นดินคุณภาพ โดยกระบวนการทำง่ายและได้ผลเป็นรูปธรรมจนได้รับการยอมรับ ด้วยต้นทุนศูนย์บาท เนื่องจากการเพาะเลี้ยงและชยายเชื้อจุลินทรีย์ ด้วยน้ำซาวข้าว ข้าวเหลือ ข้าวก้นหม้อที่ต้องทิ้ง น้ำแอร์ที่ระบายความร้อนที่หยดทิ้งนำกลับมาใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงจุลินทรีย์ และ ศักยภาพอีกประการที่สำคัญคือการนำจุลินทรีย์ไปใช้บำบัดน้ำเสีย กลิ่นเหม็น แม่น้ำลำคลอง ระบบน้ำเสียครัวเรือน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกรณีตัวอย่าง เช่น ฟาร์มหมูปฐมเกษตรเลี้ยงหมูนับหมื่นตัว และ วัดไร่ขิง ก่อนหน้านั้นมีปัญาหากลิ่นเหม็นจนชุมชนร้องเรียนขอให้สั่งปิด เมื่อนำจุลินทรีย์จิตอาสาฯ ทั้งสองแห่งบำบัดน้ำเสียไปผลสำเร็จ เป็นต้น ยังใช้กับการเกษตร และจะสามารถขยายเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนต่อไปได้

อ.วิรัช จำปานิล (ลุงอ๊อด) จิตอาสาพระราชทาน กล่าวว่า กระผม ได้พัฒนา จุลินทรีย์ขึ้น เพื่อจัดการขยะเปียก เศษอาการ ที่เป็นปัญหาวิกฤตของประเทศและได้เข้าร่วมในโครงการจุลินทรีย์จิตอาสาพระราชทานฯ ในฐานะหัวหน้าจิตอาสาภาคประชาชน จ.นครปฐม จึงได้เผยแพร่ องค์ความรู้แก่ชุมชนประชาชนโรงงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำจัดขยะเศษอาหารในครัวเรือน ร้านอาหาร วัด หน่วยงานราชการ และระดับจังหวัด
เปลี่ยนจากขยะเป็นประโยชน์ขยะอินทรีย์ขยะเปียกเศษอาหารครัวเรือนใบไม้พืชผลทางการเกษตรและอืื่นๆ ดำเนินการมาแล้วมากกว่า 100 แห่ง รวมทั้งการใช้จุลินทรีย์เพื่อบำบัดน้ำเสียกำจัดกลิ่นเหม็นจากระบบน้ำเสียน้ำทิ้งแม่น้ำคูคลองรวมถึงการปศุสัตว์ขนาดใหญ่เช่นฟาร์มหมูบ่อขยะโรงงานต่างๆเป็นต้น
ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม เช่นการนำจุลินทรีย์จิตอาสานำข้าว ใช้บำบัดน้ำเสียจากฟาร์มหมูปฐมเกษตร ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีการเลี้ยงหมูกว่า 10,000 ตัวก่อนหน้านั้นมีการร้องเรียนจากมลภาวะกลิ่นเหม็นน้ำเน่าเสียสร้างผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมถูกร้องเรียนจนเกือบต้องปิดกิจการ เจ้าของฟาร์มได้นำปัญหาดังกล่าวมาปรึกษาและได้นำจุลินทรีย์จิตอาสานำเข้าไปใช้บำบัดน้ำเสียบำบัดกลิ่นเหม็นในฟาร์มหมูและบ่อบำบัดน้ำเสียจำนวนสามบ่อซึ่งแต่ละบ่อมีพื้นที่กว่า 10 ไร่ต่อบ่อ ผลการใช้จุลินทรีย์จิตอาสาไปใช้ฉีดพ่นและใส่ลงไปในบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียผลเชิงประจักษ์และมีการวัดด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์น้ำค่อยค่อยเปลี่ยนจากมีกลิ่นเหม็นจำนวนมากค่อยค่อยลดลงกากตะกอนลดลงและสีของน้ำเริ่มใสขึ้นและเป็นน้ำใสในที่สุด ส่งผลกระทบต่อชุมชนแล้วในปัจจุบัน จนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้แห่งหนึ่งที่ฟาร์มหมูทั่วประเทศมาศึกษาดูงานในการจัดการกลิ่นเหม็นและน้ำเสียในฟาร์มปศุสัตว์ ซึ่งฟาร์มประฐมเกษตรได้ผลิตและขยายจุลินทรีย์เพื่อใช้ในการบำบัดและแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนใกล้เคียงไปแล้วกว่า 100,000 ลิตรสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีของโรงงานชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม เป็นต้น อีกกรณีหนึ่ง ตลาดน้ำและวัดไร่ขิง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่คนรู้จัก ติดกับแม่น้ำลำคลองสาธารณะ และมีเศษอาหารจำนวนมาก ได้นำจุลินทรีย์จิตอาสาไปจัดการหมักขยะเศษอาหาร ทำให้เศษอาหารในวัดไร่ขิงไม่ถูกจะทิ้งส่งกลิ่นเหม็นเหมือนที่เคยเป็น ด้านแม่น้ำลำคลองที่อยู่โดยรอบใช้จุลินทรีย์จิตอาสาไปบำบัดผลทำให้แม่น้ำลำคลองไม่เน่าเสีย ในส่วนของตลาดก็สะอาดและมีสิ่ง แวดล้อมดีขึ้นปัจจุบันได้ทำเป็น ศูนย์จุลินทรีย์ จิตอาสา อีกแห่งหนึ่งที่สำคัญมีการหมักจุลินทรีย์กว่า 50,000 ลิตร เป็นต้น
จุลินทรีย์จิตอาสานำข้าว เป็นปณิธานของลุงอ๊อด และโครงการจิตอาสา ที่เดินหน้าส่งเสริมแจกจ่ายหัวเชื้อให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศเพื่อเป็นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมนำของทิ้งมาเลี้ยงจุลินทรีย์โดยเฉพาะน้ำข้าว ข้าวเหลือ ข้าวก้นบาตร ข้าวที่ติดหม้อน้ำล้างหม้อข้าว น้ำแอร์ที่หยุดทิ้งทุกวันนำกลับมาเลี้ยงจุลินทรีย์จิตอาสา ที่มีศักยภาพสูงมีประสิทธิภาพในการย่อยสลายและคุณค่าในการสร้างคาดอาหารจากเศษขยะเศษผักผลไม้และอื่นๆ ใช้บำบัดน้ำเสีย ใช้ทางการเกษตรปลูกผัก พืชพันธุ์ต่างๆ เป็นลักษณะเปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์และกำจัดของเสียให้เป็นศูนย์รักษาสิ่งแวดล้อมยั่งยืน เป็น ปณิธานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อ ซึ่งลุงอ๊อด คณะจิตอาสาพระราชทาน และอาสาสมัครต่างๆ จะส่งเสริมขยายผลสู่ประชาชนทั่วประเทศ ให้องค์ความรู้ แจกจ่ายหัวเชื้อจุลินทรีย์จิตอาสานำเข้า เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตามรอยพ่อหลวง อย่างเป็นกำลัง โดยไม่หวังผลตอบแทนใดใด ให้สมกับเป็นจิตอาสาพระราชทาน และสมกับชื่อ จุลินทรีย์จิตอาสา

ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยลาดกระบัง ฯ (ยุทธศาสตร์เมืองจุลินทรีย์) กล่าวว่า องค์ความรู้ฐานชีวภาพ(Bio based) และจุลินทรีย์เป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ เป็นสิ่งที่ดีมากและสนับสนุนแนวคิดที่ท่านกำนันตำบลลาดตะเคียนได้กล่าวไว้ที่จะจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชน ฐานชีวภาพ และจุลินทรีย์ เพื่อเป็นแหล่งความรู้ให้กับชาวบ้าน
รวมทั้ง จุลินทรีย์จิตอาสาน้ำข้าว ซึ่งจะ เป็นประโยชน์ยิ่งต่อชุมชน และสิ่งแวดล้อมของชุมชนอย่างมากต่อไป

นายสิริเชษฐ์ ทองคำ นายก อบต.ลาดตะเคียน กล่าวว่า อบต. เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เรื่องของการแยกขยะและจัดการขยะเศษอาหาร ฯ ซึ่งเป็นปัญหาชุมชนอยู่ในปัจจุบัน การได้ศึกษาถึงนวัตกรรมจุลินทรีย์จิตอาสาน้ำข้าว ที่มีศักยภาพสูง ในการกำจัดขยะเปียกตั้งแต่ในครัวเรือนต้นทางและใช้บำบัดน้ำเสียได้และใช้ทางการเกษตรได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติที่ดีมาก ทาง อบต.และผู้นำชุมชนจะได้ส่งเสริมและขยายผลสู่ชุมชนต่อไป เพื่อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของชุมชนและตำบลลาดตะเคียนสู่คุณภาพชีวิตที่ดีตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน