“สังศิต” เผยไม่มีอะไรยับยั้ง “ฝายแกนดินซีเมนต์” เปิดบ่อได้
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อล้ำ วุฒิสภา เปิดเผยว่าเมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 ในการประชุมคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อล้ำ วุฒิสภา พันตำรวจโท ดร.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร รายงานต่อที่ประชุมว่า “ได้มีดำเนินการก่อสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ไปแล้วจำนวน 6 แห่ง การก่อสร้างแต่ละพื้นที่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ทำให้ประชาชนมีน้ำใช้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการต่อยอดจากแนวความคิดของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ และนอกจากนี้ในพื้นที่ห่างไกลได้มีการขุดสระน้ำขนาดเล็ก และมีการขุดบ่อน้ำบาดาลด้วย รวมทั้งมีการต่อยอดโดยการปลูกผัก เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกด้วย”
“ขณะเดียวกัน อบจ.มุกดาหารยังได้สนอของบประมาณผ่านระบบTHAI WATER PLAN ด้วย โดยทำเป็นแผนระยะยาว 4 ปี จำนวน 100,000 โครงการ งบประมาณ 8.5 พันล้านบาท ส่วนฝายแกนดินซีเมนต์จะทำควบคู่กันไปด้วย โดยงบประมาณองค์การบริหารส่วนจังหวัดจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด” พันตำรวจโท ดร.จิตต์ ศรีโยหะ รายงานต่อที่ประชุม (ผ่านระบบออนไลน์)
และยังได้รับรายงานจากนายสุภัทรดิศ ราชธา อนุกรรมาธิการศึกษา เสนอแนะ แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน อีกว่า
อบจ.มหาสารคามเตรียมรับมือฝนทิ้งช่วงสร้างฝายแกนดินซีเมนต์เพิ่ม เนื่องจากเห็นว่า แม้เข้าสู่ฤดูฝนเกือบ 2 เดือน แต่ปริมาณฝนยังน้อยกว่าเกณฑ์ปกติเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (2566) ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่าอาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ดร.คมคาย อุดรพิมพ์ นายก อบจ.มหาสารคาม จึงเร่งสร้างฝายแกนดินซีเมนต์เพื่อกัก เก็บ น้ำฝน รับมือช่วงฝนทิ้งช่วง 2 แห่งรวดคือ
1 ฝายดินซีเมนต์ห้วยเครือซูด บ้านโคก หมู่ที่ 3 ตำบลบัวค้อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ขนาดฝายกว้าง 1.50 เมตร ยาว 16.00 เมตร สูง 1.50 เมตร พื้นที่รับประโยชน์ 250 ไร่ ประชากร 300 ครอบครัว ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 25 -31 พฤษภาคม 2567
และ 2 ดำเนินการก่อสร้างฝายดินซีเมนต์ห้วยเครือซูด (2) บ้านโคก หมู่ที่ 3 ตำบลบัวค้อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ขนาดฝายกว้าง 1.50 เมตร ยาว 16.00 เมตร สูง 1.50 เมตร พื้นที่รับประโยชน์ 300 ไร่ ประชากร 300 ครอบครัว ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1- 6 มิถุนายน 2567 ทั้ง 2 แห่งมีเกษตรกรได้ประโยชน์ 600 ครอบครัว ครอบคลุมพื้นที่ 550 ไร่
ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวถึงฝายแกนดินซีเมนต์ว่า “ ในวาระที่คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำได้ทำงานมาครบ 5 ปี เรื่องหนึ่ง จากหลายๆเรื่องที่เราได้มอบให้แก่พี่น้องประชาชนคือ ฝายแกนดินซีเมนต์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมและ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นในการบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็กในการเอาชนะปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งให้แก่เกษตรกรได้ มาตรวัดว่าฝายแกนดินซีเมนต์จะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรที่ได้รับหรือไม่ ก็ให้ไปถามกับเกษตรกรในพื้นที่ตรงนั้นดู ถ้าหากพวกเขาตอบว่าเป็นประโยชน์และมีความสุข แสดงว่าฝายแกนดินซิเมนต์เป็นประโยชน์จริง แต่ถ้าเกษตรกรเห็นแล้วเดินหนีจากไป โดยไม่ตอบคำถามอะไรเลย ก็แสดงว่าฝายแกนดินซิเมนต์ไม่เป็นประโยชน์จริง
จากนี้ไปงานของคณะกรรมาธิการ ฯ ได้สิ้นสุดลงแล้ว และคณะกรรมาธิการฯ ได้ส่งไม้ต่อให้แก่ ’มูลนิธิแก้จน‘ ไปดำเนินการสืบทอดภารกิจในการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำต่อไป“
More Stories
GULF MTP โครงการท่าเทียบเรือขนถ่ายก๊าซธรรมชาติ ฯ พัฒนาอาชีพชาวประมง จ.ระยอง
พาณิชย์นนทบุรี ยกทัพสินค้าเด่นของจังหวัดกว่า 300 รายการ ภายใต้ชื่องาน ‘Best and Green of Nonthaburi 2025’ ให้ชิมช้อปอย่างจุใจ 26-30 พ.ค.นี้ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
เด็กนักเรียนจากสถาบันการศึกษาชื่อดังของอยุธยา จับมือร่วมต้านโกง พร้อมขยายเครือข่ายครอบคลุมทุกโรงเรียน