สงขลา #  โจรอาระวาดตัดสายไฟใน”อะควาเรียม”

สงขลา #  โจรอาระวาดตัดสายไฟใน”อะควาเรียม”

ปัญหาการทิ้งร้าง โครงการอะควาเรียมหอยสังข์ จังหวัดสงขลา ได้รับการพูดถึงอีกครั้ง หลัง ป.ป.ช.ได้รายงานความคืบหน้าในการตรวจสอบทุจริตโครงการซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาแล้ว รวมทั้งสิ้น 27 ราย และปัจจุบันอยู่ในระหว่างรับฟังคำชี้แจงข้อกล่าวหา
ซึ่งล่าสุดวันที่ 6 ตุลาคม 2566 นายกิตติศักดิ์ กั่วพานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ นายปรีชา สุขเกษม ตัวแทนเครือข่ายภาคพลเมืองสงขลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจสอบภายในอาคารโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือ อควาเรียมหอยสังข์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จ.สงขลา หลัง ป.ป.ช.ได้รายงานความคืบหน้าในการตรวจสอบทุจริตโครงการซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาแล้ว รวมทั้งสิ้น 27 ราย และปัจจุบันอยู่ในระหว่างรับฟังคำชี้แจงข้อกล่าวหา

โดยพบว่าตัวอาคารมีสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก หลังคารั่ว เป็นที่อาศัยของนกพิราบ มีซากนกตายอยู่ภายใน เต็มไปด้วยมูลนก มีทั้งมีร่องรอย น้ำรั่วจากหลังคานองพื้นอีกหลายจุด ในขณะที่ตู้แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ น้ำพร่องลงมาเกือบครึ่ง ซ้ำมีร่องรอยมีโจรลักลอบเข้าไปขโมยตัดสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า ร่วมถึงสิ่งของหายไปหลายอย่าง
นายปรีชา สุขเกษม เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบสภาพล่าสุด พบว่า อะควาเรียมหอยสังข์ทรุดโทรมไปมาก มีร่องรอยการลอบเข้ามาขโมยทรัพย์สิน โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้า ไปส่วนหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้นั้น ทางกรมอาชีวศึกษา ได้จัดจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาดูแล แต่ในระยะหลังก็ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแต่อย่างใด ซึ่งภาคประชาชนมองว่า ควรจะมีการเข้ามาดูแลสมบัติของชาติให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เรียกร้องให้รัฐให้ความสนใจหันมาเหลียวแลมากกว่าที่เป็นอยู่ แม้จะไม่ผลักดันให้เป็นอะควอเรียมได้แต่ก็ขอให้ใช้ประโยชน์ในอาคารแห่งนี้ ให้คุ้มค่ากับงบประมาณ 1400 ล้านบาท และยอมรับว่าหมดความหวังที่จะเห็นอะควอเรียม ฝันของเราไม่ไกลเหมือนเดิม จึงอยากเห็นเพียงแค่การได้ใช้ประโยชน์เท่านั้น
“ภาคประชาชนเตรียมที่จะเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง เรียกร้องให้ทางจังหวัดเป็นเจ้าภาพ ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะร่วมวางแนวทางในการขับเคลื่อนอะควาเรียมหอยสังข์ หลังจากนี้ โดยจะขอให้มีการกำหนดแนวทางในการใช้ประโยชน์ในอาคาร จากงบประมาณ 1400 ล้านบาท เมื่อได้ข้อสรุปก็จะได้ของบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป หากสามารถขับเคลื่อนจนได้ประโยชน์แล้วก็ควรจะเป็นเรื่องที่หน่วยงานในพื้นที่จะต้องทำหน้าที่ในการดูแล และ บำรุงรักษาต่อไป เพราะที่ผ่านมาโครงการนี้นั้นเป็นโครงการที่ดำเนินการทุกขั้นตอนมาจากส่วนกลาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหา การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จและติดตามความคืบหน้าได้ยาก จนปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 15 ปี”นายปรีชากล่าว
ในขณะที่ นายกิตติศักดิ์ กั่วพานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ยอมรับว่า ผู้ปกครอง รวมถึง ผู้ที่ทราบเรื่องอะควาเรียมหอยสังข์ มักจะมีการพูดถึง ถามถึง เพราะใช้เวลาในการก่อสร้างที่ยาวนาน และมองในแง่ไม่ดี โดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าวเกิดขึ้น และอยากให้มีการใช้ประโยชน์จากอาคารแห่งนี้ให้ได้เสียที โดยมองว่าหน่วยงานในจังหวัดสงขลา อาจจะมีการขับเคลื่อนร่วมกัน ทุกภาคส่วน เพื่อที่จะเริ่มต้นหารือว่าจะใช้ประโยชน์ในรูปแบบใดกับอาคารอะควาเรียมหอยสังข์ ก่อนที่จะพิจารณาขอสนับสนุนงบประมาณไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
โครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือ อควาเรียมหอยสังข์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จ.สงขลา ดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ที่ใช้เงินงบประมาณไปแล้ว 1,400 ล้านบาท แต่ผ่านมา 15 ปี การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ แม้เครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดสงขลา จะร่วมกันขับเคลื่อนโครงการเพื่อให้มีการก่อสร้างให้แล้วเสร็จมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล